1. ระบบออนกริด (On Grid)
เป็นระบบโซลาร์ (Solar) ที่ใช้ทั้งไฟจากการไฟฟ้า และไฟฟ้าที่ผลิตได้จากแผงโซลาร์ เหมาะกับบ้านที่ใช้ไฟฟ้าในช่วงเวลากลางวัน ไม่มีแบตเตอรี่ ผลิตไฟฟ้าได้แล้วใช้เลย และสามารถขายไฟคืนให้การไฟฟ้าได้ (สำหรับไฟ 1 เฟส : ระบบไม่เกิน 5kW. และ สำหรับไฟ 3 เฟส : ระบบไม่เกิน 10 kW.) ซึ่งก่อนติดตั้งโซลาร์ (Solar) ต้องขออนุญาตการไฟฟ้าก่อน ในปัจจุบันระบบนี้นิยมติดมากที่สุด เพราะคืนทุนเร็วที่สุด ต้นทุนถูกกว่าระบบไฮบริด (Hybrid) ซึ่งแบตเตอรี่ยังมีราคาสูงทำให้คืนทุนช้ากว่า สำหรับ ETA PRO จะให้บริการเป็นระบบออนกริด (On Grid) และดำเนินการขออนุญาตจากภาครัฐให้ทั้งกระบวนการ

2. ระบบออฟกริด (Off Grid)
ระบบโซลาร์ (Solar) แบบออฟกริดนี้ไม่เชื่อมต่อกับการไฟฟ้า หรือเรียกว่าเป็นระบบ Stand Alone ไม่ต้องขออนุญาตจากการไฟฟ้า เหมาะกับสถานที่ที่ไฟจากการไฟฟ้าไปไม่ถึง เช่น พื้นที่ห่างไกล บนดอยสูง ต่างๆ เป็นต้น

3. ระบบไฮบริด (Hybrid Grid)
ระบบโซลาร์ (Solar) แบบไฮบริดนี้เป็นส่วนผสมระหว่างระบบ Off Grid และ On Grid คือ มีการใช้ไฟจากทั้งการไฟฟ้า ไฟที่ผลิตได้จากแผงโซลาร์ และไฟจากแบตเตอร์รี่ ในกรณีที่แผงโซลาร์ผลิตกระแสไฟฟ้ามากเกินกว่าการใช้งาน แบตเตอรี่จะกักเก็บไฟ และสามารถดึงมาใช้ในช่วงเวลากลางคืน แต่ระบบไฮบริดจะไม่สามารถขายกระแสไฟให้กับภาครัฐได้ ปัจจุบันระบบแบตเตอรี่ที่มีมาตรฐาน และมีความปลอดภัย ยังมีราคาสูงมาก ทำให้มีระยะเวลาคืนทุนนาน จึงยังไม่คุ้มค่ากับการลงทุน

1. ติดตั้งบนหลังคา
2. ติดตั้งบนพื้นปูน / พื้นดิน
3. ติดตั้งแบบลอยน้ำ

ถ้าติดตั้งโซล่าเซลล์ แบบ on-grid หรือ Hybrid จะต้องขออนุญาตจากหน่วยงานภาครัฐทุกกรณี

1. การไฟฟ้า
   • ขอขนานไฟฟ้า (ขนานอุปกรณ์กำเนิดไฟฟ้า)
   • ขอขายไฟฟ้า (โซล่าเซลล์ภาคประชาชน)
2. กกพ. (สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน)
   ขออนุญาตเป็นผู้ผลิตไฟฟ้าที่ได้รับการยกเว้นไม่ต้องขอรับใบอนุญาตผลิตพลังงานควบคุม
3. พพ. (กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงาน)
   ขออนุญาตผลิตพลังงานควบคุม จะต้องขอเมื่อมีกำลังการติดตั้งมากกว่า 200kWp ขึ้นไป
4. หน่วยงานท้องถิ่น (อบต. เทศบาล หรือ สำนักงานเขต)
   ขออนุญาตดัดแปลงอาคาร เมื่อติดตั้งพื้นที่รวมเกิน 160 ตร.ม. หรือ น้ำหนักต่อ ตร.ม. เกิน 20 kg/ตร.ม.

การบำรุงรักษา 1 ครั้ง/ปี, เป็นระยะเวลา 2 ปี

• ล้างทำความสะอาดแผงเซลล์แสงอาทิตย์
• ตรวจสอบแรงดัน และกระแสไฟฟ้า ของแต่ละ String
• ตรวจสอบการขันแน่นของอุปกรณ์จับยึด Mid Clamp End Clamp
• ทำความสะอาด DC Combiner , AC Combiner
• Thermo Scan อุปกรณ์ประกอบระบบ 

(สุ่มเช็คแผง 10% , Inverter และ MDB 100%)

*ควรทำความสะอาดแผงและบำรุงรักษาปีละ 1 ครั้งเป็นอย่างน้อย

ETA PRO เรามีบริการ ETA CARE ดูแลหลังการขาย มั่นใจได้ว่าเราดูแลตลอดอายุการใช้งาน

อายุการใช้งานแผงโซล่าเซลล์มากกว่า 25 ปี มีการรับประกันแยกออกเป็น 2 ส่วน 

1. รับประกันการผลิตจากโรงงาน 12 ปี | 
2. รับประกัน ประสิทธิภาพการผลิตไฟ 25 ปี ไม่น้อยกว่า 80%

อุปกรณ์หลัก

1. PV Panel (แผงโซล่าเซลล์) ทำหน้าที่รับแสงอาทิตย์ แล้วเปลี่ยนพลังงานความร้อน เป็นพลังงานไฟฟ้า (DC)
2. Inverter(อุปกรณ์แปลงไฟฟ้า) หน้าที่แปลงไฟฟ้าจากแผงโซล่าเซลล์ (DC) เป็น ไฟฟ้ากระแสสลับที่ใช้กับบ้าน (AC)
3. Solar Cable (PV1-F)(สายไฟโซล่าเซลล์) หน้าที่นำส่งกระแสไฟฟ้าจากแผงโซล่าเซลล์ไปยัง inverter
4. AC Cable(สายไฟระบบ) หน้าที่นำส่งกระแสไฟฟ้าจาก inverter ไปยังตู้โหลดไฟฟ้าประจำบ้าน
5. Solar DB (ตู้ไฟฟ้า) ตู้ใส่อุปกรณ์ป้องกัน เช่น Circuit Breaker, Fuse และ Surge
6. Mounting Solar(อุปกรณ์ยึดจับแผง) หน้าที่เป็นโครงสร้างรองรับแผงและยึดจับแผงให้ติดกับหลังคา

เหมาะกับบ้านทุกประเภท แต่จะเหมาะกับบ้านที่มีคนผู้อยู่อาศัยในเวลากลางวันมากที่สุด

หลังคาทุกประเภท เช่น หลังคากระเบื้อง,หลังคา CPAC,หลังคา Metal sheet,หลังคา Flat Slab

มีผลกับการรับน้ำหนักของโครงสร้างหลังคา ซึ่งก่อนติดตั้งจะต้องประเมินโครงสร้างของบ้านก่อน ว่าสามารถติดตั้ง Solar ได้หรือไม่

บ้านไฟฟ้า 1 เฟส ติดตั้ง 5 kW ใช้เวลาติดตั้งไม่เกิน 3 วัน

บ้านไฟฟ้า 3 เฟส ติดตั้งได้ 10 kW ใช้เวลาติดตั้งไม่เกิน 5 วัน

การขออนุญาตขนานไฟฟ้า จะขึ้นอยู่กับการไฟฟ้าในแต่ละเขต อาจจะใช้เวลา 3-6  เดือนในการได้รับใบอนุญาต

ติดได้เหมือนกัน 

บ้านไฟฟ้า 1 เฟส ติดตั้ง 5 kW

บ้านไฟฟ้า 3 เฟส ติดตั้งได้ 10 kW

ต้องเตรียมเอกสาร ดังนี้

1. สำเนาทะเบียนบ้าน
2. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
3. สำเนาใบแจ้งค่าไฟฟ้า

นำเอกสาร ไปยื่นคำร้องที่การไฟฟ้าในเขตพื้นที่